Search for:
  • Home/
  • Sports News/
  • ‘ค่าเงินบาท’วันนี้ 35.66 บาท แนวโน้มอ่อนค่า กังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอหนัก

‘ค่าเงินบาท’วันนี้ 35.66 บาท แนวโน้มอ่อนค่า กังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอหนัก

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (19 ส.ค.65) ที่ระดับ 35.66 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.62 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.55-35.75 บาทต่อดอลลาร์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทั้งนี้ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ชะลอตัวลงหนักที่ลดลง หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ล่าสุด ทั้ง ดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ที่สำรวจโดยเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย (Philly Fed Manufacturing Index) เดือนสิงหาคมที่พุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.2 จุด ดีกว่าคาด รวมถึงยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ที่ลดลงสู่ระดับ 2.5 แสนราย น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ รวมถึงรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ ที่ออกมาดีกว่าคาด ได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดการเงินฝั่งสหรัฐ พลิกกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง (ConocoPhillips +3.5%, Exxon Mobil +2.4%) ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นราว +0.23%

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของเฟด โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ยังคงออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดต่อเนื่อง จนกว่าเฟดจะมั่นใจว่าสามารถควบคุมปัญหาเงินเฟ้อได้ อาทิ James Bullard ประธานเฟดสาขา Stคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. Louis ยังคงสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ของเฟด ในการประชุมเดือนกันยายน และเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องจนกว่าดอกเบี้ยนโยบายจะแตะระดับ 3.75%-4.00% ภายในปีนี้ ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดอย่างใกล้ชิดในงานสัมมนาวิชาการประจำปีของเฟดที่เมือง Jackson Holes รัฐ Wyoming ในสัปดาห์หน้า

ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทยังมีความเสี่ยงที่จะผันผวนในฝั่งอ่อนค่า ท่ามกลางแรงกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่ายังคงมีอยู่ หลังจากที่เงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 35.60 บาทต่อดอลลาร์ ที่เราประเมินไว้ในวันก่อนหน้า จากแรงกดดันทั้งการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ รวมถึงแรงขายทำกำไรสถานะการเก็งกำไรเงินบาทแข็งค่าของนักลงทุนต่างชาติที่สะท้อนผ่านโฟลว์ธุรกรรมขายสุทธิบอนด์ระยะสั้นราว 5.2 พันล้านบาท นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของราคาทองคำ ก็ทำให้มีโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงเช่นกัน

อย่างไรก็ดี แม้ว่าเงินดอลลาร์จะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นเกือบ 1% ในช่วงวันที่ผ่านมา และจะยังเป็นแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาท แต่เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจเริ่มแกว่งตัวในกรอบเนื่องจากผู้เล่นในตลาดจะรอปัจจัยใหม่ๆ ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองเงินดอลลาร์ ซึ่งหนึ่งในปัจจัยใหม่ๆ ที่ตลาดรออาจเป็นถ้อยแถลงของบรรดาประธานธนาคารกลาง โดยเฉพาะประธานเฟด ในงานสัมมนาวิชาการประจำปีของเฟดที่เมือง Jackson Holes รัฐ Wyoming ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ หลังจากที่เงินบาทอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านที่เราเคยประเมินไว้ ทำให้แนวต้านถัดไปของเงินบาทจะอยู่ในช่วง 35.75-35.80 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งจากสัญญาณทางเทคนิคัลทั้งจาก RSI และ MACD ก็ชี้ว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงได้ในระยะสั้น แต่หากเงินบาทไม่ได้อ่อนค่าต่อเนื่องรุนแรงและพลิกกลับมาแข็งค่าจนหลุดระดับ 35.15 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง จะทำให้การเคลื่อนไหวของเงินบาทเข้าเงื่อนไขรูปแบบ Head and Shoulders ซึ่งอาจสะท้อนว่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่องได้