เมื่อวันที่ 9 ก.พ. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการตรวจติดตามการให้บริการ และการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) พบว่า เป็นที่น่าพอใจ และการให้บริการต่างๆ ของ ทสภ. ไม่เป็นรองสนามบินไหนในโลก โดยขณะนี้ประสิทธิภาพการให้บริการต่างๆ ที่เป็นปัญหาก่อนหน้านี้ดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะจุดตรวจคนเข้ามือง มีขีดความสามารถในการให้บริการที่ดีขึ้น ซึ่งไม่พบปัญหาล่าช้า หรือผู้โดยสารคั่งค้างแล้ว ส่วนปัญหาการขนถ่ายสัมภาระกระเป๋าล่าช้านั้น ปัจจุบันผู้ให้บริการทั้ง 2 ราย ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (บีเอฟเอส) ได้ให้บริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า เมื่อเดือน ธ.ค. 65 พบว่า การขนถ่ายกระเป๋าล่าช้ามากกว่า 30 นาที ประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน แต่ขณะนี้สามารถลดเหลือไม่เกิน 15 เที่ยวบินต่อวัน ถือว่าดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย เร่งเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ ทั้งบุคลากร และอุปกรณ์ เพื่อไม่ให้ความล่าช้าเกิดขึ้นแม้แต่เพียงสายการบินเดียว ขณะเดียวกันในส่วนของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. อยู่ระหว่างเตรียมสรรหาผู้ประกอบการรายที่ 3 มาให้บริการงานภาคพื้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น และรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นได้ในอนาคตอย่างยั่งยืนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจัดระเบียบพื้นที่จุดนัดพบของบริษัทท่องเที่ยว (กรุ๊ปทัวร์) ภายในอาคารผู้โดยสาร ทสภ. ซึ่งปัจจุบันมีการเดินทางเป็นหมู่คณะเพิ่มขึ้น จึงได้จัดพื้นที่รองรับกรุ๊ปทัวร์ขาออกโดยเฉพาะไว้ที่บริเวณชั้น 4 ประตู 10 เพื่อลดความแออัดบริเวณหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน และไม่ให้กีดขวางทางเดินผู้โดยสาร ส่วนประเด็นที่มีการระบุว่าจุดทำ VISA ON ARRIVAL (VOA) เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่มีเรียกเก็บเพิ่ม โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เก็บเพียงค่าธรรมเนียมการขอรับตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VOA) ตามกฎหมาย 2,000 บาทเท่านั้น รวมไปถึงการให้บริการช่องทาง Fast Track VISA จะอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร 10 ประเภท อาทิ ผู้โดยสารถือบัตรโดยสารเฟิสต์คลาส, ผู้พิการ, เด็กทารก, และหญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น ซึ่งไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ได้มอบนโยบายให้ ทอท. เพิ่มเคาน์เตอร์ในส่วนที่ทำ VOA เพิ่มเติม เบื้องต้นจะเพิ่มอีกประมาณ 800 ตารางเมตร (ตร.ม.) นอกจากนี้จะเพิ่มเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองอีก 60 เคาน์เตอร์ สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มได้ประมาณ 3 พันคนต่อชั่วโมง ทั้งนี้ การดำเนินการทั้ง 2 ส่วนต้องแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน อย่างไรก็ตามได้ประสานให้ ตม. ขออัตรากำลังเพิ่มไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) รวมทั้งให้ ทอท.รายงานแผนเพิ่มเคาน์เตอร์มายังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอไปยัง สตช. จัดอัตรากำลังคนต่อไป สำหรับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT 1) จะมีการทดสอบระบบต่างๆ ในเดือน มี.ค. 66 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการในเดือน ก.ย.นี้ ส่วนการให้บริการรถแท็กซี่นั้น ขณะนี้มีการเพิ่มปริมาณรถให้มากขึ้นแล้ว จากเดิมประมาณ 2,500 คัน เป็น 3,800 คัน

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ภาพรวมปริมาณผู้โดยสารท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ได้แก่ ทสภ., ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ตั้งแต่วันที่ 8-31 ม.ค.66 ผู้โดยสารอยู่ที่ 6.89 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 2.87 แสนคน มีเที่ยวบิน 4.33 หมื่นเที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 1,800 เที่ยวบิน

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะที่ ทสภ. พบว่า มี 2.59 หมื่นเที่ยวบิน เฉลี่ย 829 เที่ยวบินต่อวัน ฟื้นตัว 84% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 65 แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ 561 เที่ยวบินต่อวัน ฟื้นตัว 139% และภายในประเทศ 268 เที่ยวบินต่อวัน ฟื้นตัว 24% ขณะที่ผู้โดยสารมี 4.3 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 1.38 แสนคน ฟื้นตัว 317% แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1.01 แสนคนต่อวัน ฟื้นตัว 981% และผู้โดยสารภายในประเทศ 3.67 หมื่นคนต่อวัน ฟื้นตัว 55% ทั้งนี้ ทอท. มีเที่ยวบินเส้นทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ประมาณ 2,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 80 เที่ยวบิน มีผู้โดยสาร 2.55 แสนคน หรือเฉลี่ยวันละ 1.1 หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็นเที่ยวบินที่ ทสภคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 1,126 เที่ยวบิน และผู้โดยสาร 2.38 แสนคน

ด้าน นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เสนอเรื่องการสรรหาผู้ให้บริการงานภาคพื้น ทสภ. รายที่ 3 ไปยังสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แล้ว คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้ภายในเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นจะใช้เวลาสรรหาผู้ประกอบการรายที่ 3 ประมาณ 6-7 เดือน และพร้อมให้บริการได้ทันภายในช่วงตารางบินฤดูหนาวประมาณเดือน ต.ค.นี้