นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเค พาวเวอร์  หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,566 ล้านบาท ลดลง 93 ล้านบาท หรือ 3.5%  เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ มีกำไร 1.8 ล้านบาท ลดลง 99.8% ขณะที่รายได้รวม 6 เดือน หรือม.ค. – มิ.ย. ปีนี้จำนวน 5,251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่ 6 เดือนปีนี้ บริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนสุทธิจำนวน 103 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีกำไรสุทธิ 903 ล้านบาท เนื่องจากสภาพภูมิอากาศโลกแปรปรวน เกิดภัยแล้งเป็นวงกว้าง รวมถึงประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ส่งผลกระทบทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2

รวมทั้งปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน  และค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มดอกเบี้ยโลก จึงกระทบต่อผลการดำเนินงาน ขณะที่ฐานะการเงินของบริษัทฯ ยังแข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินที่ภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 0.62 เท่าคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“ตอนนี้บริษัทฯ ได้ประกาศความพร้อมจ่ายไฟฟ้า อย่างระมัดระวัง และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำน้อย ยอมรับว่า ฤดูแล้งปีนี้ เป็นอีกปีที่หนักหน่วง เพราะมีสถานการณ์เอลนีโญเข้ามาสมทบ แต่บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ด้วยดี เนื่องจากมั่นใจว่าในไตรมาส 3 จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลน้ำหลาก ผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมา อีกทั้งได้มีการวางแผนและเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือเรื่องภัยแล้งอย่างเป็นระบบ”

นอกจากนี้บริษัทยังได้ติดตามสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของซีเคพี โดยสิ้นไตรมาส 2 ปีนี้ หนี้สินระยะยาว 83% ตามงบการเงินรวมของซีเคพี เป็นหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ และต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5%  และในส่วนของบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ เป็นบริษัทร่วมมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และการออกหุ้นกู้ เพื่อบริหารจัดการหนี้สินระยะยาวให้มีสัดส่วนดอกเบี้ยคงที่และดอกเบี้ยลอยตัวที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องคำพูดจาก pg slot เว็บใหม่

นายธนวัฒน์ เพิ่มเติมว่า ในปี 2566 CKPower ได้ตั้งเป้าหมายปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขตที่ 1 และ 2 ไม่เกิน 723,674 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 CKPower ปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่ 354,851 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) ซึ่งถือว่าดีกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ไม่เกินเป้าหมายหรือดีกว่าเป้าหมาย โดยบริษัทมีโครงการลดการใช้พลังงาน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรภายในองค์กรและมีแผนที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทดแทนรถยนต์เดิม และจะเพิ่มการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนภายในองค์กรจากเดิม 88% เป็น 92% ภายในปีนี้